รูปหางานครู

 

 

งานครูเป็นอาชีพในฝันของใครหลายๆ คน น้องๆ นักศึกษาที่กำลังศึกษาเพื่อที่จะจบออกมาเป็นครูมืออาชีพในแต่ละปีจำนวนไม่น้อย ในบทความนี้ ก่อนที่น้องๆ จะเริ่มต้นเลือกที่เรียน หรือ หางานครู เรามาดูกันให้ครบองค์รวมกันก่อนครับว่า อาชีพครูนั้น คืออะไร, มีความสำคัญอย่างไร, ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพเป็นครู อาจารย์ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรกันบ้าง และในส่วนสุดท้ายเรามาจบบทความนี้กันด้วยบทสัมภาษณ์อาจารย์สาวกันว่าในวันหนึ่งๆ คุณครูเขาทำอะไรกันบ้าง

ก่อนอื่นเรามาดูความหมายขอคำว่าครูกันก่อน วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้ให้กำจำกัดความของคำว่าครูไว้ได้น่าสนใจดังนี้

“ครู คือ ผู้ที่มีความสามารถให้คำแนะนำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางการเรียน สำหรับนักเรียน หรือ นักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั้งของรัฐและเอกชน มีหน้าที่ หรือมีอาชีพในการสอน นักเรียน เกี่ยวกับวิชาความรู้ หลักการคิดการอ่าน รวมถึงการปฏิบัติและแนวทางในการทำงาน โดยวิธีในการสอนจะแตกต่างกันออกไปโดยคำนึงถึงพื้นฐานความรู้ ความสามารถ และเป้าหมายของนักเรียนแต่ละคน และนอกจากการสอนแล้วครูยังเป็นผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์ ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี สอนในคุณงามความดีเพื่อเป็นแม่แบบให้เด็กได้ปฏิบัติตามทั้งต่อหน้าและลับหลัง”
จะเห็นว่าครู นอกจากจะทำหน้าที่ประสิทธิ์ประสาท วิชาความรู้ให้กับศิษย์นำไปใช้ในการประกอบวิชาชีพแล้ว ครูยังมีหน้าที่ในการเป็นเบ้าหลอม หรือเป็นแม่พิมพ์ ให้ศิษย์ทุกๆ คน ที่จะเป็นคนดี ของสังคมต่อไป

ความสำคัญของอาชีพครู

รูปความสำคัญของอาชีพครู

ครู เป็นอาชีพที่มีบทบาทต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก ประเทศใดมีครูที่มีคุณภาพดี ประเทศนั้นก็สามารถที่จะผลิตบุคคลากร ที่มีคุณภาพ ทำให้การพัฒนาประเทศให้เจริญทั้งทางด้านวัตถุ และจิตใจทำได้ ไม่ใช่เรื่องยาก อาจกล่าวได้ว่า ครู นักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่สำคัญ ครูที่ดี มีคุณภาพย่อมสามารถที่จะผลิตศิษย์ที่มีคุณภาพ ป้อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน นำไปสู่การพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน (Sustainable Development) ต่อไป

จึงสามารถสรุปความได้ว่า อาชีพครู และผู้ที่ทำงานเป็นครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เป็นสาขาอาชีพและเป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะว่ารับผิดชอบหน้าที่ภาระที่ยิ่งใหญ่ ในการเป็นแม่พิมพ์ให้ลูกหลานเยาวชนของเรา เติมโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้ความสามารถ และมีจิตใจที่ดี เป็นกำลังสำคัญของชาติบ้านเมืองต่อไป

คุณลักษณะของครูที่ดี

รูปคุณลักษณะของการเป็นครูที่ดี

  1. มีความประพฤติดี ทั้งกาย วาจา และใจ และมีความเคารพต่อกฎหมาย และระเบียบประเพณีในสังคม
  2. มีความซื่อสัตย์สุจริต และยึดมั่นในหลักความยุติธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่คดโกง
  3. มีความขยันในหน้าที่การงาน ในฐานะทำงานครู ไม่เสียเวลาชีวิตไปกับสิ่งที่ไร้สาระ ไม่เป็นประโยชน์ และนำเวลาไปปฏิบัติกิจอันควรกระทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
  4. มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าแสดงความคิดเห็น ที่สามารถนำมาปรับปรุง และพัฒนาระบบ ระเบียบการเรียนการสอน
  5. มีความเครารพในระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และส่วนรวมมาก่อนส่วนตัว
  6. มีความเสียสละ และมีความเมตตา เอื้อเฟื้อแบ่งปัน เกื้อกูลผู้อื่น ทั้งในส่วนของกำลังกาย และกำลังทรัพย์

อยากทำงานครู ต้องเรียนอะไร

รูป เรียนสาขาอะไร หางานครูได้

คณะแรกที่เรียนแล้วสามารถได้รับใบประกอบวิชาครูเมื่อจบแล้ว เป็นหลักสูตรเรียน 5 ปี คณะศึกษาศาสตร์ หรือ บางสถาบันอุดมศึกษาเรียกว่า คณะคุรุศาสตร์

จบแล้วสามารถไปทำงานเป็นครูที่โรงเรียนประถม หรือมัธยมได้ หรือสอนในสถาบันกวดวิชาก็ได้ ในกรณีที่คุณเลือกเรียนคณะวิทยาศาสตร์ จะสามารถสอนในสถาบันกวดวิชาได้เท่านั้น นะครับ

ตามติดชีวิตครู ใน 1 วันครูมืออาชีพเขาทำอะไรกันบ้าง

คุณครู ชลทิพย์ บุนรังศรี หรือ ครูปลื้ม ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับเว็บ Dek-D.com ไว้อย่างน่าสนใจ ว่าในวันหนึ่งๆ คนทำงานครู เขาทำอะไรกันบ้าง ต่อไปเป็นบทสรุปย่อๆ การสัมภาษณ์ครูปลื้มครับ

ครูปลื้มให้ฟังว่าตนมาจากครอบครัวครู

พ่อและแม่ต่างก็ทำอาชีพครูจึงมีความคุ้นเคยกับอาชีพนี้ตั้งแต่เด็ก ต่อมาจึงมุ่งมั่นศึกษา ในคณะที่จบออกมาแล้วสามารถประกอบอาชีพครู ครูปลื้มจบการศึกษาระดับอุดมศึกษาปริญญาจากคณะครุศาสตร์ สาขาการสอนสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นได้เรียนต่อระดับปริญญาโทที่วิทยาลัยการจัดการ สาขาจัดการทรัพยากรบุคคล จากมหาวิทยาลัยมหิดล

เมื่อศึกษาจบได้ทำงานเป็นครูอัตราจ้าง สอนวิชาสังคมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาอยู่เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี ครึ่ง

“คำว่าครูอัตราจ้างนั้นหมายถึงเมื่อทางโรงเรียนต่างๆ เปิดรับสมัครงานตำแหน่งครู ผู้ที่สนใจก็ทำการสมัคร ก็จะมีการสัมภาษณ์ พิจารณาประวัติการศึกษา ประสบการณ์เหมือนการสมัครงานทั่วๆ ไป ไม่ได้สอบผ่านระบบของทางราชการ”

หลังจาก ได้สอบบรรจุเข้ารับราชการครูที่ โรงเรียนศึกษานารี โดยการทำงานใน 2 ปีแรกนั้น ทำในฐานะครูผู้ช่วย จากนั้นก็ผ่านการประเมินประเมิน จนได้เลื่อนขั้นไปทำงานตำแหน่ง ครูและบุคคากรทางการศึกษา 1 หรือ คศ. 1 (เมื่ออายุงานมากขึ้นก็จะมีการเลื่อนขึ้นขึ้นไปเรื่อยๆ จาก คศ.1 ไปจำถึง คศ. 5)

ครูสาวเล่าต่อว่าในแต่ละวันชีวิตการเป็นครูของเธอเริ่มขึ้นเวลา 7.00 น. บางวันก็ไปทำหน้าที่เป็นครูประจำอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนเพื่อตรวจความเรียบร้อยของนักเรียนที่เพิ่งเดินทางมาถึง จากนั้นเวลา 7.30 น. ก็จะเรียกนักเรียนมาเข้าแถวเคารพธงชาติ ต่อไปก็จะเริ่มการเรียนการสอน โดยวันที่ให้สัมภาษณ์ ครูปลื้มมีสอนทั้งหมด 4 คาบด้วยกัน คือ ตอนเช้าสอน 2 คาบ, และ อีก 1 คาบ ในตอนบ่าย และคาบประชุมนักเรียนมัธยมศึกษาปี 4 หรือ ม. 4 อีกหนึ่งคาบ คาบไหนที่ไม่มีสอนเธอก็ใช้เวลาในการเตรียมการสอนต่อไป

ครูปลื้มเล่าว่าในแต่ละวันก็จะคล้ายๆ กันแบบนี้ อาชีพครูถึงจะเงินเดือนไม่มากนัก (เริ่มต้นที่ 15,000 บาท สำหรับครูบรรจุใหม่) แต่ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันก็ไม่สูงมากนัก (ตัวอย่างเช่น อาหารที่โรงเรียนจานละ 20-25 บาท) ดังนั้น ถ้าไม่ใช้จ่ายเกินตัว อยู่ได้ เธอเสริมว่าเสน่ห์อีกอย่างของงานครูคือ หน้าที่ในแต่ละวันถึงจะไม่หวือหวาอะไรมากนัก แต่ก็ถือว่าไม่ได้มีความกดดันมากเช่นกัน !

เห็นตัวอย่างงานครู ใน 1 วัน กันไปคร่าวๆ แล้ว ถ้าคุณสนใจอ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆ คลิกที่นี่ครับ

เอาละครับเพื่อเท่านี้ น้องๆ เพื่อนก็ได้ความรู้ ความเข้าใจกันไปพอสมควรแล้ว สามารถนำไปต่อยอด และใช้ประกอบการติดสินใจแล้วครับว่า จะเรียนครู จะหางานครู ดีไหม ได้อย่างไร CareerLink ขอเป็นกำลังใจให้กับแม่พิมพ์ของชาติทุกๆ คน ครับ

เส้นทางนักสอนมืออาชีพ

ภาพคุณครูและนักเรียนในห้องเรียน

ช่วงนี้มีข่าวแว่วมาจากกระทรวงศึกษาธิการว่า บุคคลธรรมดาที่ไม่ได้เรียนจบคณะครุศาสตร์ หรือคณะศึกษาศาสตร์ ก็สามารถมาเป็นครูได้แล้วนะ แค่สอบให้ติด แล้วไปเรียนประกาศนียบัตรวิชาชีพครูเพิ่มเติมอีก 1 ปี แค่นี้ก็ใช้ได้แล้วล่ะ เพราะในตอนนี้ประเทศไทยของเรามีครูเกษียณมากกว่า 10,000 อัตรา ภายในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ทำให้ระบบต้องการครูใหม่ๆ เข้าไปแทนที่บุคลากรที่ขาดหายไปเป็นจำนวนมาก แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาครัฐอยู่ดี จึงมีโครงการที่จะจ้างครูที่เกษียณแล้วให้ทำงานต่อไปได้อีก 2-5 ปี ตอนนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับใครที่กำลังมองหางานใหม่อยู่ เพียงคุณเรียนจบปริญญาตรีจากสถาบันการศึกษาที่รัฐบาลรับรอง แค่นี้โอกาสได้งานก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว

เส้นทางงานสอน ไม่ได้มีทางเดียว

การสอบคัดเลือกเข้าบรรจุเป็นข้าราชการครูนั้นจะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ทุกๆ เดือนเมษายนและตุลาคมของทุกปี ยกเว้นว่ามีเหตุพิเศษเกิดขึ้น จึงอาจจะเลื่อนกำหนดวันประกาศรับสมัคร หรือยกเลิกการจัดสอบได้ อย่างในปี พ.ศ. 2559 นี้ ก็มีการเลื่อนกำหนดการสอบหลายครั้ง จนในที่สุดก็มีสอบเพียงครั้งเดียว แต่ทางรัฐบาลได้ออกโครงการพิเศษ คือ ครูท้องถิ่นขึ้นมาอีกรายการหนึ่ง เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการผลิตครูพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพระดับคับแก้ว โดยผู้สมัครจะต้องมีเกรดเฉลี่ยมากกว่า 3.00 ขึ้นไป เรียกได้ว่าคัดเฉพาะหัวกะทิมาแข่งขันกันเลยก็ว่าได้

เชื่อว่ามีหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้เลยสอบบรรจุครูผู้ช่วยมาก่อน แต่เราอยากจะบอกคุณว่า อันที่จริงแล้ว การที่คุณมีความต้องการอยากจะเป็นครูของรัฐบาลนั้น ไม่จำเป็นต้องรอประกาศของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการเพียงอย่างเดียว เพราะในปัจจุบัน ครูที่สามารถบรรจุเป็นราชการ เบิกค่ารักษาพยาบาล และได้รับเงินบำนาญนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ครูสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ แต่เรายังมีครูที่สังกัดกระทรวงมหาดไทยด้วย ซึ่งครูประเภทนี้ มีสิทธิ์มีเสียงเทียบเท่ากับครูที่สังกัดกระทรวงศึกษาธิการทุกประการ

ครูสังกัดกระทรวง

ครูสังกัดกระทรวงมหาดไทยนั้น จะเป็นครูที่สอนในเขตเมือง เช่น ตามองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เขตเทศบาล และเขตปกครองพิเศษอย่างกรุงเทพมหานครนั่นเอง มีภาระหน้าที่ ที่ต้องสอน เข้าเวร รับสวัสดิการจากรัฐ และพิจารณาขึ้นเงินเดือน ไม่ต่างจากครูของรัฐบาล ที่มาจากการคัดเลือกของกระทรวงศึกษาธิการเลย แต่อย่างไรก็ตาม นั่นหมายความว่า คุณต้องสอบผ่านการคัดเลือก ทั้งข้อสอบ ภาค ก. ภาค ข. และภาค ค. ซึ่งคะแนนของทุกภาคต้องมากกว่าร้อยละ 60 ถึงจะได้รับการขึ้นบัญชี

ครูอัตราจ้าง

ถ้าหากว่าคุณพยายามสอบมาหลายครั้งหลายครา แต่ว่าจนแล้วจนรอด ก็ยังสอบไม่ติด นั่นไม่ได้แปลว่าคุณจะหมดอนาคตไปเสียเลยทีเดียว ตามโรงเรียนของรัฐต่างๆ ก็เปิดรับครูอัตราจ้างอยู่ไม่น้อย คุณสามารถสมัครเข้าไปสอนได้ง่ายกว่าการสอบครูผู้ช่วยเสียอีก โดยสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ก็ให้เงินเดือนครูอัตราจ้างไม่น้อย มีตั้งแต่ 7,000 – 18,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว แถมคุณยังได้รับสิทธิพิเศษ คือ ถ้าหากทำงานให้กับสถาบันการศึกษาของรัฐติดต่อกันนานเกิน 3 ปี คุณจะสามารถสอบครูผู้ช่วยกรณีพิเศษได้อีกด้วย ตรงนี้จะมีประโยชน์มากๆ เพราะคุณสามารถตัดคู่แข่งที่เป็นเด็กจบใหม่ออกไปได้อีกเยอะเลยล่ะ

ครูเอกชน

หากคุณคิดว่าการเป็นครูอัตราจ้างนั้นยังดูไม่มั่นคงพอ เพราะสัญญาจ้างก็ทำเพียงแค่ปีต่อปี หลังๆ มานี้ยิ่งต่อสัญญาทุก 4 เดือน เรียกได้ว่าต่อกันเทอมต่อเทอมเลยทีเดียว แบบนี้คุณเองก็สุ่มเสี่ยงที่จะไม่ได้โควตานี้มากขึ้น ถ้าหากคุณรับสภาพนี้ไม่ได้ เราขอเสนอให้คุณไปสมัครงานที่โรงเรียนเอกชนเลย เพราะโรงเรียนแบบนี้ คนที่มีความสามารถเท่านั้นที่จะอยู่ต่อได้ ถ้าคุณมีจิตวิญญาณของความเป็นครู ต้องการที่จะสอนนักเรียนแบบไม่ได้สนใจว่า ฉันต้องเป็นข้าราชการนะ แบบนี้ก็ทำงานที่โรงเรียนเอกชนได้เลย แถมยังมีข้อดีอีกหลายอย่าง คือ เริ่มและเลิกงานเป็นเวลา ไม่ได้มาเบียดบังเวลาหยุดพักผ่อนของคุณ ไหนเลยจะได้เงินเดือนสูงกว่าด้วย แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องเป๊ะจริงๆ นะ สอนดี สอนเก่ง นักเรียนรัก เพราะโรงเรียนเอกชนจะมีการประเมินคุณจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการนักเรียน จากเพื่อนร่วมงาน และจากผู้บริหาร ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นั่นหมายความว่าคุณอาจจะต้องออกมาจากโรงเรียนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง

ครูสอนพิเศษ

ถึงขึ้นที่ไปโรงเรียนเอกชนมาแล้วก็ยังผิดหวังอยู่ล่ะก็ เรายังมีวิธีเยียวยาจิตใจของคุณอยู่นะ ทำไมไม่ลองไปสมัครทำงานที่โรงเรียนสอนพิเศษ และโรงเรียนกวดวิชาดูล่ะ แบบนี้น่ะงานก็มั่นคงไม่แพ้กันนะ แถมเด็กๆ ยังตั้งใจเรียนกว่าตอนไปโรงเรียนอีกด้วย สอนอะไรก็จด พูดอะไรก็ฟัง เพราะคนที่จะมาเข้าเรียน เขาตัดสินใจเดินเข้ามาในห้องด้วยตัวเอง ไม่มีใครบังคับทั้งนั้น เด็กกลุ่มนี้จึงมีความคาดหวังต่อตัวคุณมาก เช่น จะสอนสนุกกว่าครูที่โรงเรียนไหม จะได้อะไรมากกว่าการเรียนในห้องเรียน หรือจะมีเทคนิคอะไรที่ทำให้เข้าใจได้ง่ายและใช้ได้จริงหรือเปล่า ด้วยเหตุผลนี้ คุณจึงต้องทำการบ้านค่อนข้างหนัก แต่ค่าตอบแทนก็ไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ

มาถึงวิธีสุดท้าย ถ้าอยากเป็นครูจริงๆ ก็ปิดประกาศรับสมัครติวเองเลย ไม่ว่าจะเอาป้ายไปติดตามโรงเรียนและมหาลัย โพสต์ลงอินเทอร์เน็ต และเว็บไซต์จัดหางาน แบบนี้ก็ช่วยผ่อนแรงคุณได้มากเช่นกัน แต่โอกาสที่จะมีคนติดต่อกลับมาก็ค่อนข้างที่จะต้องลุ้นอยู่พอสมควร

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวิธีดีๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ อยากเป็นครู ก็ต้องได้เป็นครู ถ้าใจมันรัก อุปสรรคแค่เรื่องขี้ผง

วีดีโอแนะสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นครูมือ 1

ถึงตรงนี้เราก็อ่านกันมาพอสมควร คงไม่ถึงกับตาแฉะ พอล้าๆ บ้างนิดหน่อย เรามาลองเปลี่ยนบรรยากาศไปดูคลิปวีดีโอเกี่ยวกับการทำอาชีพครูกันบ้าง ดีกว่า

ยุคนี้ใครๆ ก็อยากเป็นครู

อาชีพครูจะล้นหรือขาดตลาด

แนะนำ ค่ายอยากเป็นครู โครงการ 8 คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ
กล้าคิดกล้าทำ โตขึ้นฉันอยากเป็นครู

ครูฝึกสอนต้นแบบ

กว่าจะเป็นครูลิลลี่