ครู อาชีพที่ถูกมองข้าม ดูเหมือนครูในเมืองไทย จะเป็นอาชีพที่ถูกให้ความสำคัญน้อยกว่าที่ควรจะได้รับ ยิ่งถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆที่พัฒนากว่า อาจเป็นเพราะถูกมองว่า เงินเดือนน้อย งานเยอะ ความรับผิดชอบสูง (ซึ่งก็ถูกอีกนั่นแหละ) แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเนื้องานของความเป็นครูจะสำคัญน้อยลง ตรงกันข้ามครูจะเป็นอาชีพที่ยิ่งต้องการมากขึ้น เพราะโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก
มีความรู้ด้านต่างๆเกิดขึ้นเยอะมาก คนรุ่นใหม่ๆจำเป็นต้องมีครูที่จะถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นให้กับพวกเค้า เพื่อจะออกไปสู่โลกกว้าง หรือเพื่อนำไปทำมาหาเลี้ยงชีพ สำหรับใครที่ยังลังเลว่าจะเลือกอาชีพครูดีหรือเปล่า เรามาดูกันดีกว่า ว่าอาชีพนี้มีข้อดีอะไรบ้าง และการหางานครูเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะยากแต่ถ้าเราปรับปรุงตนเองเปลี่ยนทัศนคติในการมองอาชีพครูใหม่จะทำให้เราสามารถหางานด้านอาชีพครูได้ไม่ยากเลย
โดยจุดเริ่มต้นเราเองต้องทำความเข้าใจตนเองก่อนว่า อะไรนะที่เป็นเหตุผลให้เราต้องมีอาชีพเป็น “ครู”
1. เราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ แบบเห็นผลชัดเจน
ลองนึกภาพ จากเด็กที่อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ไม่ประสีประสาในชั้นอนุบาล แต่เมื่อได้มาพบเรา เด็กคนนั้นกลายเป็นพี่ใหญ่ที่รู้เรื่องรู้ราว รู้ว่าอะไรดี –ไม่ดี และพร้อมจะก้าวไปข้างหน้า เผลอๆถึงขั้นไปเป็นหมอ หรือ วิศวกร หรือนักวิจัยที่คิดค้สสิ่งใหม่ๆ จะเป็นเพราะใครถ้าไม่ใช่เพราะเรา ปลื้มมั้ยล่ะ
2. เราคือผู้สร้างอนาคต
เราจะเป็นผู้สร้างอนาคตให้ทั้งส่วนบุคคล สังคม และระดับชาติ เด็กๆของเราจะเป็นเด็กที่ดี มีความรู้ มีเราธรรม สังคมนั้นจะเป็นกลุ่มคนที่มีการศึกษา มีรายได้มั่นคง มีความซื่อสัตย์ ประเทศชาติจะมีประชากรที่มีเราภาพ รู้หน้าที่ เคารพกฎระเบียบของสังคม จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากกลุ่มเด็กที่เราได้สั่งสอนมานั่นแหละ
3. สร้างผลกระทบอย่างรุนแรง
หมอหนึ่งคน ช่วยชิวิตคนไข้ได้ครั้งละ 1 ราย แต่เราสามารถสอนหมอได้ 10 คนในครั้งเดียว บรรดาหมอของเราจะสามารถช่วยชิวิตคนไข้ได้ 10 รายในเวลาเดียวกัน เราคิดว่ามันแตกต่างกันแค่ไหน แล้วถ้าเราสอนหมอได้มากกว่านี้ล่ะ พอมองเห็นภาพออกรึยัง
4. เป็นบุคคลสำคัญ
เราจะได้รับการยกย่องว่ามีความสำคัญสูงสุดอยู่เสมอ เพราะต่อจากพ่อแม่ ก็เป็นเรานี่แหละที่จะทำให้คนพัฒนาความรู้สึกความคิดและจิตใจให้ดีขึ้นได้ ถ้าจะวัดกันที่อิทธิพลต่อตัวเด็กแล้ว เรามีอิทธิพลมากกว่าพ่อแม่เด็กด้วยซ้ำไป เพราะพวกเค้าใช้เวลาอยู่กับเรามากกว่า
5. ดูเด็กกว่าอายุจริง
อันนี้เรื่องจริง เด็กคือสิ่งมีชีวิตที่มีพลังงานสูง น่าเอ็นดูและไร้เดียงสา ซึ่งเราจะซึมซับมันได้ แล้วเราจะได้ใช้เวลาวันละ 8 ชั่วโมงกับพวกเค้า เราจะเจอเรื่องน่ารักๆ ชวนให้หัวเราะทุกวัน ลองนึกดูจะมีอาชีพไหนที่มีสิ่งแวดล้อมแบบนี้
6. รายได้มั่นคง
เราจะมีรายได้ประจำสม่ำเสมอ เบิกค่ารักษาพยาบาลของตนเองและพ่อแม่ได้ เจ็บป่วยก็ไม่ต้องควักสักบาท แสกนลายนิ้วมืออย่างเดียว ถ้ามีลูกใช้สิทธิเบิกค่าเทอมได้จนจบป.ตรี มีกองทุนให้กู้อีกนะเออ จะเรียนต่อก็มีทุนให้ เกษียณไปมีบำนาญให้อีก คิดดีๆเราประหยัดเงินได้เพียบเลยนะ
7. เป็นที่เคารพ
ไม่ใช่แค่กับเด็กๆแต่จะรวมไปถึงพ่อแม่ของพวกเด็กๆด้วย เราจะเป็นที่นับถือในฐานะผู้สั่งสอนลูกหลานของพวกเค้า ทุกคนจะให้เกียรติเราตลอดเวลาแม้แต่ตอนที่เราใส่เสื้อกล้าม นุ่งกางเกงเตะบอลไปซื้อของที่เซเว่นฯ เราจะมีคนไหว้ตั้งแต่เริ่มเป็นครู ไปจนตาย ขนาดนายกรัฐมนตรีก็ยังยกมือไหว้ครูได้แบบไม่กระดากใจเลย
8. ได้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
เวลาที่เราต้องเตรียมตัวเพื่อที่จะไปสอนเด็ก เราจะสรรหาวิธีใหม่ๆที่จะถ่ายทอดให้กับพวกเค้า จะทำให้เรามีการเรียนรู้เพิ่มขึ้นไปด้วย
9. ได้เป็นแบบอย่างที่ดี
เราจะเป็นแรงบันดาลใจให้เด็ก โดยไม่จำเป็นต้องรูปร่างหน้าตาดี หรือมีชื่อเสียง เด็กก็มองเราเป็นตัวอย่างที่เค้าอยากเป็นเหมือนเรา มีครูหลายคนที่มีแรงบันดาลใจจากการที่เห็นครูของตัวเองในตอนเด็ก
10. มีโอกาสแก้ตัวใหม่ได้
ถ้าเรารู้สีกว่าเราทำพลาดอะไรไป เราจะมีโอกาสแก้ตัวใหม่ได้ในชั้นปีถัดไป หรือในนักเรียนชั้นถัดไป หรือแม้แต่ตอนเริ่มเรียนเนื้อหาบทใหม่
11. รู้รอบ
เราจะหาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอดเวลา และสนุกกับการเรียนรู้ เพราะเราไม่ได้แค่ถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในหนังสือเท่านั้น แต่เราจะต้องสอนสิ่งที่อยู่รอบตัว สถานการณ์ปัจจบัน หรือเทคโนโลยีใหม่ๆให้เด็กอยู่ตลอด ทำให้เราได้มีความรู้รอบด้าน
12. มีวันปิดเทอม
มีอาชีพไหนบ้างที่ยังจะมีเวลาปิดเทอม หลังจากที่เรียนจบจนออกมาทำมาหากินแล้ว ก็เป็นครูไง เราจะได้ลิ้มรสความสุขของการปิดเทอม ได้สัมผัสการรอคอยวันปิดภาคเรียนอย่างใจจดใจจ่ออีกครั้ง และได้ลิ้มรสความขี้เกียจของการเปิดภาคเรียนวันแรกเช่นกัน
13. เราจะมีบุคลิกที่ดี
บอกลาการแคะเล็บ แคะขี้มูกหรือเกาที่ลับแบบไม่แคร์สายตาใครไปได้เลย ถ้าเราเป็นครู เราจะสำนึกได้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำ จะมีคนมองตาแป๋วอยู่ตลอดเวลา และนั่นจะทำให้เราปรับปรุงบุคลิกของตัวเองแบบอัตโนมัติ รวมถึงเสื้อผ้าของเราด้วย โยนเสื้อเกาะอก กางเกงขาสั้นเต่อของเราทิ้งไปเลย เราไม่อยากใส่ให้เด็กๆของเราเห็นหรอก
ปัจจุบันเรายังขาดแคลนคนที่มีความรู้ความสามารถที่จะมาเป็นครูมากขึ้น เพราะวิชาความรู้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาวิชาความรู้ให้ทันต่อโลกยุคปัจจุบัน นอกจากนั้นยังขาดบุคคลที่จะทำการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาในด้านการเรียนการสอน เช่นปัญหาการหนีเรียนของนักเรียน นักเรียนขาดเรียนโดยไม่ทราบสาเหตุ ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยเรียน ทั้งหมดนี้ต้องการผู้ที่จะมาช่วยพัฒนาและแก้ไขให้การศึกษามีเราภาพมากขึ้น
ดังนั้น ถ้าเราลังเลว่าจะเป็นครูดีมั้ย ตัดสินใจได้แล้ว มาสร้างคนที่มีคุณภาพ สร้างสังคมที่ดีขึ้นด้วยตัวเราเอง โอกาสอยู่ในมือเราแล้ว เราเปลี่ยนโลกได้ด้วยตัวของเราเอง
ด้วยความเคารพแด่ครูทุกท่านครับ