มาเล่ากันต่อ ถึงพฤติกรรมที่ไม่ควรทำระหว่างการหางานนะคะ
-
ไม่ตรงเวลา
การไม่รักษาเวลา ถือว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในการหางานนะคะ เพราะขนาดเริ่มต้นเรายังไม่สามารถดูแลจัดการชีวิตของเราเองได้ แล้วเราจะให้บริษัทมั่นใจได้อย่างไรว่าเราสามารถบริหารจัดการโครงการใหญ่ที่เค้าจะมอบให้ในตอนที่เราได้เข้ามาทำงานได้อย่างไร
การตรงเวลานี้เริ่มตั้งแต่ มาสัมภาษณ์ให้ตรงเวลา ส่งเอกสารหรือข้อมูลอื่นๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ร้องขอเพิ่มเติม หรือ การตอบคำถามหรือแนะนำตัวให้ตรงกับเวลาที่เรากำหนด
จริง ๆ ก็ไม่ใช่แค่การหางานเท่านั้นที่ซีเรียสเรื่องการไม่ตรงเวลา รวมแม้นกระทั่งเราเข้ามาทำงานเป็นพนักงานของบริษัทเราก็ต้องตรงเวลาในการทำงานทุกเรื่องด้วยเหมือนกัน หากเรามองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย บางที่สิ่งดี ๆ ก็อาจจะหลุดลอยไปจากเราได้เหมือนกันนะคะ
-
เสื้อผ้าหน้าผมไม่เรียบร้อย
เสื้อผ้าหน้าผม หมายรวมถึง การแต่งกายเราต้องศึกษาวิธีการแต่งกายแบบเหมาะสมว่าเรากำลังไปสัมภาษณ์องค์กรที่มีวัฒนธรรมลักษณะแบบใด หลังจากนั้นก็แต่งกายให้เหมาะสม ถ้าเราไม่รู้อะไรเลยก็ให้แต่งกายแบบสุภาพทั่วไป สิ่งที่ไม่ควรทำคือ ใส่กางเกงยีนส์ขาด ๆ แนว ๆ ไปสัมภาษณ์ สวมรองเท้าแตะ กระโปรงที่สั้นเกิน เสื้อแขนกุด เสื้อผ้าที่ไม่ได้รีดและยังยับยู่ยี่อีก สวมเสื้อยึด เป็นต้น
ส่วนหน้าผมและทุกส่วนของร่างกายเราควรจะดูแลเป็นอย่างดีก่อนไปสัมภาษณ์ ทรงผมที่ไม่แนะนำก็คือแบบทำสีจัดจ้าน กระเซอะกระเซิง ผมบังหน้าเข้าตาแล้วต้องคอยใช้มือปัดมันอยู่นั่นแหละ เช็คหน้าตาว่ามีขี้ตา มีขี้ฟัน ทาแป้งเครอะไปหรือเปล่า ขี้หูมีไหม ทาลิปแบบพองาม ไม่ใช่ให้เย้มแลดูเลอะเทอะ ที่สำคัญที่สุดต้องปากไม่เหม็น แนะนำให้ฉีดน้ำยาดับกลิ่นปากไปก่อนกันเหนียว และไม่ควรรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรงมาก่อนสัมภาษณ์ แถมท้ายว่าบางทีเราต้องจะต้องดูแลกระทั่งเล็บ ตัดเล็มให้เรียบร้อย และไม่ควรกัดเล็บ แคะขี้มูก เกานั่นนี่ตอนระหว่างสัมภาษณ์นะคะ
-
ไม่มีความมั่นใจ หรือประหม่าเกินไป
เมื่อรู้สึกไม่มั่นใจอะไรบางอย่าง สิ่งที่เกิดขึ้นเราจะพูดไม่รู้เรื่อง บางทีก็พูดค่อยไป บางทีก็พูดเสียงดังไป ไม่ได้เรียงความสำคัญของเนื้อหา กระโดดข้ามไปข้ามมา ทำให้คนฟังฟังไม่รู้เรื่อง หรือบางทีก็พูดเสียงสั่น และอาจจะถึงขั้นไม่อยากสบตาผู้สัมภาษณ์ อาจจะทำให้เกิดการตีความที่ผิดพลาดกันไปได้ เพราะส่วนใหญ่ภาษากายจะบอกว่าคนที่หลบตาเราเวลาพูดคือคนโกหก เป็นต้น
สิ่งที่เราควรทำคือการเตรียมความพร้อมในการไปสัมภาษณ์ให้ดี เพราะส่วนใหญ่รูปแบบในการสัมภาษณ์แต่ละที่ก็มีลักษณะคล้าย ๆ กัน แนะนำตนเอง เล่าเรื่องที่เราเคยทำสำเร็จ ผ่านความยากลำบากอะไร เรียนรู้อะไร หรืองานใหม่จะวางกลยุทธ์อย่างไร เป็นต้น
-
กรณีที่ตำแหน่งงานนั้นต้องการทักษะภาษาระดับสูง แต่เราไม่มีเลย
สิ่งที่เราอาจจะต้องระวัง คือ ตอนอ่านประกาศรับสมัครงาน ว่าสิ่งที่เค้าต้องการมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ถ้าเราไม่ตรงกับความต้องการของเค้า แนะนำว่าอย่าไปส่งไปสมัครให้เค้าเลยดีกว่าค่ะ เพราะเสียเวลาที่ต้องส่งไป เสียเวลาเค้าที่ต้องเปิดอ่าน เพราะร้อยทั้งร้อยบริษัทต้องการคนที่มีคุณสมบัติตรงค่ะ ดังนั้นตั้งใจอ่านให้ดีก่อน และเมื่อเราส่งรีซูเม่ออกไปเราต้องมั่นใจว่าเรามีคุณสมบัติตรงและเค้าจะต้องเรียกเราสัมภาษณ์อย่างแน่นอน
-
การไม่อดทนอดกลั้น
คำว่าอดทนอดกลั้น หมายถึง อดทนต่อการรอคอยที่ทางบริษัทจะติดต่อกลับมา บางทีอาจจะมีการเลื่อนเพราะเหตุผลภายในบริษัทฯ ก็อยากให้เราอดทนรอ อย่าเพิ่งโวยวาน ไม่แน่ใจอะไรก็ให้โทรไปถามจะดีที่สุด หรือพอมาถึงบริษัท ต้องรอหัวหน้างานหรือผู้บริหารมีประชุมด่วน กรณีลักษณะนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ดังนั้นเราต้องเข้าใจและอดทน
-
เตรียมตัวไม่ดีก่อนไปสัมภาษณ์
การเตรียมตัวไม่ดี จะทำให้เราตกม้าตายตอนท้าย ซึ่งน่าเสียดายที่สุด เช่น การไม่ศึกษาแผนที่บริษัทให้ดีก่อน พอไปจริง ๆ หลงหาทางไปไม่ได้ และสุดท้ายคือกลายป็นสายไม่ตรงเวลาตามที่เค้านัด
หรือไม่ซักซ้อมการตอบสัมภาษณ์ไว้ก่อน พอถึงเวลาทำให้เราลนกลายเป็นตอบผิดตอบถูก
-
ไม่เข้าใจงานหรือวัฒนธรรมของบริษัทที่เรากำลังไปสมัคร
เรื่องนี้เราหลายคนอาจจะมองข้าม แต่อยากให้ทุกคนทำความเข้าใจว่า หากเป็นองค์กรใหญ่ ๆ เราต้องศึกษามาบ้างนะคะ เช่น ดูจากเว็บไซต์ของเค้า ถามจากคนรู้จัก เป็นต้น
-
ชักสีหน้าหรือมีอารมณ์เมื่อกำลังถูกกดดัน
บางครั้งระหว่างการสัมภาษณ์บางบริษัทอาจจะมีการสร้างสถานการณ์เพื่อกดดันเรา เพื่อจะสังเกตุพฤติกรรมสะท้อนกลับของเราว่าเป็นอย่างไร แล้วเหมาะกับงานหรือตำแหน่งนั้น ๆ หรือเปล่า ถ้าเราไม่เข้าใจในสถานการณ์เพราะคงไม่มีใครบอกก่อนแน่นอน เผลอแสดงอารมณ์หรือชักสีหน้าออกมา ก็จะทำให้เราเสียเครดิตป่าวๆ แต่ก็ไม่ใช่เงียบไปเลย ก็จะกลายเป็นอีกกรณีตรงกันข้ามไปเลยว่าเราไม่ Drive for result หรือ เป็นคนขี้แพง่าย
-
ทานขนมหรือคุยโทรศัพท์เสียงดังรบกวนคนอื่น
เมื่อมาถึงสถานที่สัมภาษณ์ก่อน เราก็ควรจะหามุมนั่งให้เรียบร้อย และไม่ควรนำขนมมาทานระหว่างนั่งรอ รวมถึงไม่ควรคุยโทรศัพท์เสียงดังระหว่างนั่งรอสัมภาษณ์ หรือมัวแต่นั่งเล่นโซเซียลมีเดีย จนลืมยิ้มให้กับคนอื่นนะคะ
-
ไม่สวัสดีตอนเจอกันหรือลากลับ
การกล่าวทักทายเป็นมารยาทพื้นฐานของคนไทย ดังนั้นก่อนหรือหลังเราก็ควรจจะไหว้เพือเป็นการให้เกียรติฝ่ายตรงข้าม และเป็นคะแนนบวก ๆ ให้กบเราด้วยค่ะ
-
ไม่เก็บเก้าอี้หลังจากสัมภาษณ์เสร็จ
โดยมายาทของการทำงานและประชุม ทุกทั้งที่เรานั่งเก้าอี้ ไม่ว่าจะเป็นห้องประชุม หรือโรงอาหร หรือ ห้องรับรอง เมื่อเราลุกออกไปแล้วก็ควรเก็บให้เรียบร้อยค่ะ