ในประเทศไทยถือว่าการคุ้มครองหรือผลประโยชน์ที่ทางรัฐบาลสนับสนุนและช่วยเหลือผู้พิการในสังคมนั้นอยู่นะดับที่ดีพอใช้ ไม่ใช่ไม่มีสวัสิดการรัฐ หรือ กฎหมายคุ้มครองดูแลผู้พิการเลยก็หาไม่ เพราะมีกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับคนพิการถึง 23 ฉบับดังรายละเอียดข้างล่าง
(ที่มา http://www.pwdsthai.com)
-
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
-
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ( เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับคนพิการและสิทธิสวัสดิการสังคม)
-
กฎกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2542) ออกตามความใน พ.ร.บ.การฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. 2534 และระเบียบคณะกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ว่าด้วยมาตรฐาน อุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพิการ พ.ศ.2534
-
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้คนพิการมีสิทธิได้รับสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษา พ.ศ. 2550
-
อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ
-
กฎกระทรวงกำหนดจำนวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับเข้าทำงาน และจำนวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนำส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2554
-
พระราชบัญญัติ ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556
-
กฎกระทรวง ฉบับที่ 281 (พ.ศ. 2554) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
-
พระราชบัญญัติวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ. 2556
-
กฎกระทรวงกำหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกหรือบริการในอาคารสถานที่หรือบริการสาธารณะอื่น เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ พ.ศ. 2555
-
พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556
-
กฎกระทรวงกำหนดลักษณะ หรือการจัดให้มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกหรือบริการในอาคารสถานที่ ยานพาหนะหรือบริการขนส่ง เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ พ.ศ. 2556
-
พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551
-
พระราชบัญญัติ ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550
-
พระราชบัญญัติ การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551
-
พระราชบัญญัติ คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
-
พระราชบัญญัติ ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546
-
พระราชบัญญัติ การฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ พ.ศ. 2534
-
พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 37) พ.ศ. 2552 การสนับสนุนการอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือทุพพลภาพ สามารถนําค่าอุปการะเลี้ยงดูมาหักลดหย่อนในการคํานวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
-
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร(ฉบับที่ 498) พ.ศ.2553 ยกเว้นภาษีเงินได้สําหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สิน ให้แก่กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ฯ
-
พระราชกฤษฎีกา ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ ที่รับคนพิการเข้าทำงาน และ เจ้าของอาคาร สถานที่ ยานพาหนะ บริการขนส่ง หรือผู้ให้บริการสาธารณะอื่น ซึ่งได้จัดอุปกรณ์ สิ่งอํานวยความสะดวก หรือบริการให้แก่คนพิการ
-
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 519) พ.ศ. 2554 ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล สําหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดให้คนพิการได้รับสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ ได้จากสิ่งอํานวยความสะดวกฯ
-
กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสาร
ซึ่งหนึ่งในยี่สิบสามฉบับนั้น ในหัวข้อที่หก จะพูดถึงเรื่อง “กฎกระทรวงกำหนดจำนวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับเข้าทำงาน และจำนวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนำส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.255” โดยเนื้อความที่สำคัญกล่าวถึงสถานประกอบการกับการจ้างงานผู้พิการเข้ามาทำงาน “ข้อ ๓ ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการซึ่งมีลูกจ้างตั้งแต่หนึ่งร้อยคนขึ้นไปรับ
คนพิการที่สามารถทํางานได้ไม่ว่าจะอยู่ในตําแหน่งใดในอัตราส่วนลูกจ้างที่มิใช่คนพิการทุกหนึ่งร้อยคน
ต่อคนพิการหนึ่งคน เศษของหนึ่งร้อยคนถ้าเกินห้าสิบคนต้องรับคนพิการเพิ่มอกหนึ่งคน” โดยในข้อความนี้ทำให้เห็นถึงโอกาสของผู้พิการในงานที่จะได้ทำงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากกฎหมายช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้พิการมีช่องทางการทำงานเพิ่มขึ้น
สำหรับวิธีการหางานสำหรับผู้พิการนั้น สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือ ความรู้ (Knowledge) ความชำนาญ (Specialist or Expert) ความสามารถ (Competency) และ ทักษะ (Skills) เริ่มต้นเราต้องวางเป้าหมายของเราเสียก่อนว่าเราอยากทำงานอะไร ซึ่งไม่มีผลกับความพิการของเรา และให้เรามุ่งมั่นศึกษาเรื่องนั้นจนรู้จริง ฝึกฝนในเรื่องดังกล่าวให้เป็นผู้ชำนาญรู้จริงในสิ่งที่ตัวเองทำ เมื่อมั่นใจแล้วเราเองก็สามารถที่ส่งรีซูเม่หรือประวัติของเราเอง พร้อมกับประสบการณ์ในการฝึกฝนเรื่องดังกล่าวให้กับสถานประกอบการ ซึ่งมีมากมายเหลือเกินในประเทศไทย
โดยเราสามารถเข้าไปดูรายละเอียดชื่อของบริษัทที่จดเป็นบริษัทจำกัดไปที่เว็บไซด์ของกระทรวงพาณิชย์ http://www.dbd.go.th/เพื่อนำเสนอตัวเองเป็นพนักงานของบริษัทนั้น ๆ หรือ จะเข้าไปดูเว็บไซต์หางานที่รับสมัครงานทั่วไป แล้วส่งรีซูเม่ พร้อมแนบ“กฎกระทรวงกำหนดจำนวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับเข้าทำงาน และจำนวนเงินที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องนำส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.255” เพื่อให้เป็นเอกสารอ้างอิงเรื่องการรับคนพิการเข้าทำงานตามกฎหมายกำหนด ก็จะช่วยให้ฝ่ายสรรหาหรือเจ้าหน้าที่รับสมัครพนักงานสามารถที่จะเข้าใจในเนื้อหาได้ง่ายขึ้นและสามารถนำเรื่องของเราไปพิจารณาเพื่อรับทำงานต่อไปค่ะ ขอให้โชคดีทุกท่านค่ะ