ภาษาเป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างกัน ยิ่งในโลกปัจจุบันที่การสื่อสารไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในชุมชน เมือง หรือประเทศเดียวกันอีกต่อไป แต่เป็นการสื่อสารระหว่างกันทั่วโลก ต่างพื้นฐาน ต่างภาษา ซึ่งภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางของคนทั้งโลกที่ใช้ติดต่อสื่อสารกัน
สำหรับเราที่เป็นคนไทยมีภาษาหลักเป็นภาษาไทย และยังมีภาษาท้องถิ่นทั้งเหนือ อีสาน ใต้เป็นภาษาที่สอง ไม่ใช่สิภาษาอังกฤษนะคะเป็นภาษาที่สองของเรา มันก็ยากจริงๆนะ ภาษาไทยว่ายากละนะ ภาษาอังกฤษยิ่งยาก เจอฝรั่งหัวทองเดินมาถาม Excuse me ใจพี่นี่หล่นไปตาตุ่ม ปากคอสั่นพร้อมที่จะตอบไปว่า I can’t speak English สินะ นี่เป็นคนรุ่นเดิมกันละ แต่เดินรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ภาษาอังกฤษไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ปัจจุบันมีทั้งโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ มีโรงเรียนที่เปิดหลักสูตรอินเตอร์ สอนวิชาต่างๆด้วยภาษาอังกฤษมากมาย ทำให้สมัยนี้เด็กไทยเราเก่งภาษาอังกฤษกันขึ้นเยอะ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะ ยังมีบางส่วนที่น่าจะเข้าไปพัฒนาให้ดีขึ้น เริ่มการเมืองละออกมาดีกว่า
พูดจริงคะภาษาเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่อยากบอกทุกๆคนว่า เป็นปัจจัยหนึ่งของการจ้างเหมือนกัน บริษัทต่างชาติ ชาวต่างชาติก็เริ่มมีการเข้ามาทำธุรกิจเปิดบริษัทมากขึ้น ภาษาจะเป็นใบเบิกทางเราได้อย่างดีเลยทีเดียวคะ อย่ากลัวที่จะฝึก อย่าอายที่จะพูดนะคะ จะว่าไปแล้วคนไทยเรามีข้อเสียอย่างหนึ่งคือ เวลาเพื่อนพูดภาษาอังกฤษไม่ถูกหรือพูดไม่ชัด ก็มักจะชอบล้อเลียนเห็นเป็นเรื่องสนุกตลกไปซะ บางคนถึงกับประชดประชันเหน็บแหนม ไม่ดีเลยนะคะ คนโดนกระทำเค้าไม่สนุกด้วยหรอก ลองคิดมุมกลับถ้าเราพูดผิดหรือทำอะไรผิดบ้างแล้วโดนมั่งเรายังไม่ชอบเลย และมันยังเป็นการปลูกฝังค่านิยมแบบผิดๆด้วยนะคะ ผิดกันเมื่อฝรั่งหรือชาวต่างชาติพูดภาษาไทย เรากลับมองว่าน่ารัก มาปรับทัศนะคติกันเถอะคะ อย่าไปหัวเราะเยาะ ล้อเลียนคนที่เค้าพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งเลย เปลี่ยนเป็นมาช่วยให้กำลังใจ แนะนำเค้าดีกว่า ให้เค้ามีความกล้าที่จะพูด กล้าที่จะสื่อสาร
การช่วยเสริมศักยภาพของคนในทางหนึ่ง การสร้างความแข็งแกร่งให้คนหนึ่งก็จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งของเราทุกคนให้ทัดเทียมกับชาติอื่นๆได้แล้วนะคะ สำหรับหลายๆท่านที่รู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งเรื่องภาษาอังกฤษก็ดี อายหรือไม่กล้าที่จะพูดก้อดี อย่าอายเลยคะ
เริ่มที่จะปรับทัศนคติตัวเอง
อย่าอายถ้าจะเป็นการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แข็งแกร่งขึ้น
ให้เราได้พัฒนาขึ้นอีกขั้นนะคะ ถ้าเราก้าวข้ามอุปสรรคนี้ได้
อุปสรรคอื่นๆก็ไม่หวั่นพร้อมที่จะก้าวต่อไปนะคะ
ที่นี้นอกจากภาษาที่สองแล้ว ทำไมต้องมีภาษาที่สามด้วยหละ สองภาษาก็ยากปวดหัวน่าดูแล้วน้า นี่เอาภาษาที่สามอีกเหรอ อย่างที่บอกคะโลกเปลี่ยนไปแล้ว โลกเริ่มแบน Social Network ย่นโลกให้เล็กลง และเมื่อเราเริ่มเปิด AEC การเปิดเสรีในประเทศกลุมสมาชิกอาเซียนด้วยกัน ซึ่งหลายๆประเทศก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักเช่นกัน
การเรียนรู้ภาษาอื่นๆ ภาษาใหม่ๆจะยิ่งเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสให้กับตนเอง อย่างเช่น ภาษาพม่า ภาษาลาว ภาษาเวียดนาม เป็นต้น เราอาจจะมองว่าประเทศเพื่อนบ้าน บางประเทศในสายตาเราอาจจะดูด้อยพัฒนากว่าเราด้วยซ้ำ แต่อย่าดูถูกคนอื่นไปคะ อย่างบางประเทศเป็นประเทศที่อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์ คนมีความพร้อมสำหรับการรองรับธุรกิจที่กำลังจะเข้าไปเปิดประเทศ หลายๆประเทศเริ่มมีการเปิดประเทศและพัฒนาประเทศของตัวเองให้ก้าวหน้าขึ้น หลายๆประเทศเป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนกระเป๋าหนักอีกต่างหาก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลในเรื่องต้นทุน คน ทรัพยากร ฯลฯ
ดังนั้นไม่ถึงในอนาคต อาจจะในอีกไม่นานในเวลาอีกไม่กี่ปี การหมุนเวียน เปลี่ยนงาน การทำธุรกิจ ฯลฯ จะไม่ได้จำกัดอยู่แต่ประเทศใดประเทศหนึ่งหรือประเทศพัฒนาแล้วเสมอไป จะมีความหลากหลายมากขึ้น คนจะมีโอกาสหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปตามประเทศต่างๆมากขึ้น ซึ่งถ้าเรารู้และมีความเข้าใจในภาษาอื่นๆนอกจากภาษาอังกฤษจะเป็นภาษีที่ดีให้แก่ตัวท่านเองที่จะเปิดโอกาสก้าวสู่โลกยุคใหม่ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่พูดมาทั้งหมดนี่มันเกี่ยวยังไงกับการหางานหละทีนี้ เกี่ยวแน่นอนคุณเพราะจะกลายเป็นอีกคุณสมบัติที่จะทำให้คุณโดดเด่นขึ้นมาในสายตายของผู้สัมภาษณ์หรือเจ้าของธุรกิจเลยหละคะ อย่างเช่น ถ้าคุณมีโอกาสได้สัมภาษณ์กับบริษัทข้ามชาติ ซึ่งมีโครงการจะลงทุนในประเทศลาว และคุณเป็นคนที่รู้ภาษาลาว สามารถสื่อสารกับคนลาวได้เป็นอย่างดี
คุณจะกลายเป็นตัวเลือกแรกๆสำหรับผู้บริหารที่จะคัดเลือกคุณไปโปรเจคนั้นๆ ยิ่งถ้าประกอบกับคุณเป็นคนมีความสามารถในการบริหารโปรเจค มีประสบการณ์การทำงานกับคนลาวหรือการเริ่มธุรกิจด้วยแล้ว อนาคตที่ท้าทายอยู่ตรงหน้าคุณแล้วคะ หรือเอาตัวอย่างแบบใกล้ๆตัวหน่อยก็ได้คะ งานสรรหาคัดเลือกนี่แหละ เช่นถ้าบริษัทกำลังเปิดรับสมัครงาน มีการรับคนต่างชาติเข้ามาทำงาน ไม่ว่าจะตั้งแต่ระดับผู้บริหารตลอดจนพนักงานระดับล่างก็ตาม ถ้าเจ้าหน้าที่สรรหาสามารถสื่อสารได้มากกว่า 1 ภาษา จะสามารถสื่อสารกับผู้สมัครได้หลากหลายกลุ่มขึ้น และช่วยสร้างความเข้าใจผู้สมัครได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการเปิด candidate pool ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นอีกด้วย อย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่าบางประเทศก็ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการหรือเป็นภาษาที่สอง ซึ่งการที่เราต้องสื่อสารเป็นภาษาอื่น แล้วเราไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งในบางเรื่องก็จะไม่สามารถสื่อสารหรือถ่ายทอดได้ชัดเจนเท่าภาษาของตัวเองคะ
ดังนั้นภาษาเป็นประตูสื่อสารระหว่างบุคคล ไม่ว่าจะเป็นคนชาติเดียวกันหรือชาวต่างชาติก็ตาม ภาษาจะช่วยทำให้คนเกิดความเข้าใจระหว่างกัน อันจะนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพ และภาษายังเป็นใบเบิกทางสำหรับโอกาสและการเรียนรู้ที่ท้าทายในชีวิตการทำงานของเราทุกคนด้วยนะคะ นอกจากนี้อยากแนะนำว่าเราอย่าไปยึดติดว่าภาษาที่สาม ต้องเป็นภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาเยอรมัน หรือภาษาฝรั่งเศสเสมอไปคะ ลองเริ่มหันมามองภาษาเพื่อนบ้านของเรานี่แหละ อย่างที่บอกไม่ว่าจะเป็นพม่า มลายู อินโด ฯลฯ รู้ไว้ไม่เสียหลายคะ กลับเป็นทักษะภาษาในโพรไฟล์เก๋ๆให้คุณได้อีกด้วยนะคะ
ทิ้งท้าย “จงเอาชนะความกลัวของตัวเอง ด้วยการพูดและฝึกฝน
แต่จงอายตัวเองหากไม่พัฒนาเพราะความกลัวและความอาย”