รูปการทำงานของพนักงานบริษัท

ผมเชื่อว่าคนเรา มีจุดเปลี่ยนของชีวิตอยู่ไม่กี่ครั้ง นอกจากวันที่เลือกคู่ชีวิต วันที่เลือกคณะในระดับมหาวิทยาลัย อีกวันนึงก็คือ วันที่เริ่มทำงาน

 

เพราะการเริ่มทำงานจะเป็นการเปลี่ยนชิวิตทั้งหมดที่ผ่านมา เข้าสู่ช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดของมนุษย์ คือช่วงวัยทำงาน คุณจะใช้เวลาช่วงนี้ราวๆ 38 ปี (นับว่าเริ่มงานตอนอายุ 22 เกษียณตอนอายุ 60ปี) แปลว่าคุณจะอยู่กับมันอีกนานจนกว่าคุณจะเปลี่ยนงาน หรือเกษียณนั่นแหละ

 

ถ้าคุณกำลังอยู่ในช่วงเวลาในการหางาน ไม่ว่าจะเพิ่งเรียนจบ หรือ เปลี่ยนงานก็ตาม การทำงานบริษัทหรือหางานบริษัท ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากว่าภาคเอกชนหรือที่เรียกว่าบริษัทเป็นกำลังหลักในการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการบริโภค การลงทุนและการส่งออก เศรษฐกิจและเม็ดเงินทั้งในและต่างประเทศจะอยู่ในระบบนี้มากที่สุด เป็นระบบงานที่ให้ค่าตอบแทนสูงที่สุด เป็นไงฟังดูน่าสนใจใช่มั้ย?

 

ทีนี้เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น มาดูกันว่าถ้าเราต้องหางานบริษัทแล้ว ระบบบริษัทมีข้อดียังไงบ้าง ถ้าเทียบกับระบบราชการ ในที่นี้ผมจะถือว่าอาชีพอิสระก็คือระบบบริษัทอย่างนึงก็แล้วกัน เพราะจะมีส่วนที่คล้ายกันมาก

  1. เรื่องความมั่นคงของงาน ข้าราชการมีมากกว่าแน่นอน แต่ระบบบริษัทก็ไม่โดนไล่ออกง่ายๆเหมือนกัน ถ้าคุณทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่ง อาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่คุณมีความประพฤติชั่วร้ายแรง ซึ่งต่อให้รับราชการก็โดนไล่ออกเหมือนกันนั่นแหละ อีกอย่างแม้บริษัทจะเจ๊งไป คุณก็มีดีพอที่จะไปทำงานบริษัทอื่นๆ ได้ เพราระบบงานในบริษัทที่ทำธุรกิจแบบเดียวกัน จะคล้ายกันมาก เรียกว่าย้ายปั๊บทำงานได้เลย
  2. โอกาสในอนาคต ถ้าคุณรับราชการแล้วอยากเปลี่ยนงานไปทำระบบบริษัท คุณอาจจะปรับตัวไม่ได้ หรือ ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอกันเลยทีเดียว เพราะระบบมันต่างกันมาก ยังไม่นับเป้าหมายของระบบบริษัทที่กระตุ้นพนักงานแบบเข้มข้นอีกนะ เรียกว่าคุณจะเปลี่ยนจากนักกีฬาเดินทน มาเป็นแข่งวิ่งร้อยเมตรเลยทีเดียว
  3. รายได้ แน่นอนว่าระบบบริษัทค่าตอบแทนสูงมากทีเดียว เพราะเจ้าของบริษัทมีเงินในมือ การซื้อขายแลกเปลี่ยนมีมูลค่าสูง กำไรมาก ก็สามารถจ่ายค่าตอบแทนพนักงานได้มากกว่าทั้งเงินเดือน สวัสดิการ โบนัส รถประจำตำแหน่ง ขณะที่ระบบราชการจะเป็นงานที่หล่อเลี้ยงชาติ และสังคม งานหลายอย่างมูลค่าน้อย (แต่ไม่มีไม่ได้ เช่นเทศบาลเป็นต้น) จึงมีเงินจำกัดที่จะตอบแทนลูกจ้าง
  4. โอกาสในการเข้าทำงาน ระบบราชการรับคนน้อย และสอบเข้ายากกมากก คนแข่งกันเป็นพันเป็นหมื่น รับแค่หลักสิบ แถมเปลี่ยนงานยากมาก กว่าจะย้ายได้แต่ละที รอกันเป็นปี ยิ่งถ้ามีปัญหากับหัวหน้า ลูกน้องต้องรอจนกว่าจะหาที่ลงใหม่ได้ (เพราะหัวหน้าคงไม่ย้ายง่ายๆ) ขณะที่ระบบบริษัท คุณสามารถย้ายไปในบริษัทที่ทำธุรกิจแบบเดียวกันได้เลย ซึ่งก็มีอีกหลายสิบบริษัทที่ทำแบบเดียวกัน แถมย้ายไปแล้วเงินเดือนเพิ่ม ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นอีกต่างหาก
  5. มีโอกาสแสดงศักยภาพของคุณเอง ในระบบบริษัทคุณจะได้ใช้ความสามารถแลกเงิน คุณยิ่งเก่ง ค่าตอบแทนยิ่งมาก หรือไม่ก็เปลี่ยนไปทำที่ใหม่ที่สามารถจ่ายให้คุณได้มากขึ้น ข้าราชการน่ะเหรอ คุณได้รับเงินเดือนตามตำแหน่งคุณนั่นแหละ เพราะเค้าต้องการจากคุณแค่นั้น มากกว่านั้นเค้าไม่สนใจ จึงเกิดปัญหาใช้คนไม่คุ้มกับงานอยู่เสมอๆ
  6. ความหลากหลายในการเลือกทำงาน คุณไม่จำเป็นต้องจบมาตรงสายก็สามารถทำงานในตำแหน่งอื่นๆได้ ถ้าคุณมีความสามารถหรือพิสูจน์ได้ว่าคุณทำได้ วิศวกรหลายคนเปลี่ยนไปเป็นพ่อครัวในโรงแรมชื่อดัง ผู้จัดการระดับสูงที่หางานบัญชี และจบจากบัญชีหรือคอมพิวเตอร์ วิศวกรโยธาที่มาทำงานเป็นฝ่ายการตลาด ที่ว่ามาเป็นเรื่องปกติในระบบบริษัท(แถมมีเยอะด้วย) ซึ่งมีความหลากหลายมาก คุณสามารถเลือกสาขาที่คุณชอบและทำได้ดีโดยที่มีข้อจำกัดน้อยมาก ขณะที่ระบบราขการคุณต้องมีคุณสมบัติตรงแบบเป๊ะๆเท่านั้น เช่นคุณจะเป็นครู ต้องจบครูเท่านั้น นอกจากนี้หมดสิทธิ์
  7. การเติบโต ระบบบริษัทมีตำแหน่งรองรับอยู่เสมอถ้าคุณมีศักยภาพพอที่จะก้าวขึ้นมา บางทิ่เปิดแผนกใหม่ หรือขยายสาขาเพิ่ม บางที่เปิดเป็นบริษัทลูก หรือคุณสามารถหาที่ใหม่ที่ตำแหน่งว่างได้ เพราะระบบบริษัทมีการย้ายและเปลี่ยนงานกันเสมอ ถ้าคุณมองหางานระบบราชการน่ะเหรอ (หางานครู) รอไปเถอะถ้าหัวหน้าคุณไม่เกษียณหรือถูกสั่งย้าย ถ้าคุณอาวุโสยังไม่พอก็รอต่อไป
  8. การพัฒนาตนเอง ระบบบริษัทคุณจะได้เรียนรู้ทักษะเพิ่มตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นจากตัวงานเอง จากการที่บริษัทส่งคุณไปอบรมหรือดูงาน และคุณยังสามารถขอไปเรียนต่อด้านต่างๆโดยที่บริษัทช่วยในด้านค่าใช้จ่ายอีกด้วย ขณะที่ระบบราชการแทบจะไม่ต้องการความสามารถทางภาษาหรือสาขาอื่นๆนอกเหนือที่คุณจบมา ถ้าคุณไม่อยู่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านต่างประเทศเช่นทำงานที่สถานฑูตหรือกงศุล อะไรนะ? คุ ณอยากขอทุนเรียนภาษาญี่ปุ่น ขณะที่คุณทำงานอยู่การประปา? คุณคิดว่าหัวหน้าคุณจะอนุมัติมั้ย?

ที่ว่ามาข้างต้นไม่ได้มีเจตนาที่จะโจมตีหรือกล่าวหาว่าระบบราชการแย่หรือไม่ดีใดๆทั้งสิ้น เพราะข้อดีของระบบราชการก็มีอยู่มาก ตัวอย่างเช่นคุณสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลของตนเองและพ่อแม่ได้ มีใช้สิทธิเบิกค่าเทอมของลูกได้จนจบป.ตรี มีกองทุนให้กู้ เกษียณไปมีบำนาญให้ มีวันหยุดเยอะ (ถ้าคุณเป็นครูก็มีปิดเทอมด้วย) ฯลฯ

 

แต่เป็นการชี้ให้เห็นข้อดีของการทำงานบริษัทสำหรับผู้ที่สนใจหางานบริษัทแต่ยังไม่มีข้อมูล หรือยังลังเลว่าจะเลือกทำอาชีพอะไรดี

 

สุดท้ายไม่ว่าคุณจะเลือกทำอาชีพอะไร ก็ขอให้คุณตั้งใจทำงานเต็มความสามารถ ให้สมกับที่คุณได้เข้าไปอยู่ในองค์กร จำไว้ครับ คนที่ทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยหยาดเหงื่อและมันสมองของตนเอง ล้วนมีเกียรติและมีศักดิ์ศรีทุกคน

 

 

ขอให้มีความสุขกับงานของคุณครับ

  •