ออฟฟิศซินโดรม เป็นกลุ่มอาการที่เกิดกับหนุ่มสาววัยทำงานมากขึ้นทุกวัน ด้วยความเคร่งเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่เกี่ยวกับตัวเลขอย่างงานบัญชี งานวิศวะ แล้วละก็เครียดหนักกว่าเพื่อน ประกอบกับความเร่งรีบของชีวิตประจำวัน และการทำงานในท่าทางที่ผิดปกติมากเกินไป ทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายได้หลายโรค
ไม่ว่าจะเป็นปวดสายตา ดวงตาล้า จาก Computer Vision Syndrome พังผืดกดทับเส้นประสาท นิ้วล็อก ปวดคอ ปวดบ่า ปวดหลัง เป็นต้น วันนี้เราจะมาดูวิธีจัดการกับปัญหาต่างๆเหล่านี้อย่างง่ายๆกันดีกว่าค่ะ
โรคปวดตาหรือตาล้า
ให้รีบพักผ่อนสายตา ทางที่ดีคือพักสายตา 2-3 นาที ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง ที่นั่งต้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ การมองไปบริเวณไกลๆ หรือต้นไม้สีเขียวช่วยได้ครับ
นอกจากนี้อาจบรรเทาอาการได้โดยนวดบริเวณหัวตาเบาๆ ใช้แผ่นกรองแสงสำหรับจอคอมพิวเตอร์ เช็ดหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้สะอาดไม่ให้ฝุ่นละอองเข้ามาสะท้อนแสงบนจอคอมพิวเตอร์ ปรับปริมาณแสงที่จะเข้าตาให้เหมาะสมและกระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้น
โรคพังผืดกดทับเส้นประสาท
เกิดจากการใช้ข้อมือที่ผิดวิธี คลิก กระดิก กด ขยับ จับเมาท์ มากเกินไป เบื้องต้นให้พักการใช้งาน แช่น้ำอุ่นสัก 15 นาที เวลาใช้ข้อมือควรวางข้อมือในมุมที่ถูกต้อง คือให้ระดับข้อมือกับระดับแขนอยู่ในระดับเดียวกัน และตรงระดับกับเมาท์ ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นอาจจะต้องไปพบแพทย์ เพื่อทานยา ฉีดยาหรือผ่าตัด
โรคนิ้วล็อก
โรคนิ้วล็อกเกิดจากพังผืดที่หนาตัวรัดเส้นเอ็นที่โคนนิ้ว งอแล้วเหยียดไม่ออก จะปวดมากตอนมีอากาศเย็นและอาจจะทำให้นิ้วผิดรูปได้
วิธีการดูแลรักษาในเบื้องต้นนั้นให้แช่น้ำอุ่นในท่าที่เหยียดนิ้วทุกนิ้ว แล้วบีบนวดเบาๆในขณะที่แช่น้ำอุ่น แต่ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น อาจต้องไปพบแพทย์เพื่อ ทานยา ฉีดยา หรือควรผ่าตัดนะค่ะ
ปวดคอ ปวดบ่า ปวดหลัง
อาจจะเกิดเพราะเกร็งกล้ามเนื้อต้นคอมากเกินไป ก้มหรือแหงนหน้ามากเกินไป ยกแขนเวลาพิมพ์งาน หรือถือของหนักๆรวมทั้งการโค้งหลังเป็นประจำ
วิธีการดูแลและป้องกันตัวเองจากอาการปวดคอ ปวดหลัง ปวดบ่า ทำได้ง่ายๆครับ ด้วยการปรับระดับโต๊ะทำงานให้เหมาะสม นั่งหลังตรงพิงพนัก เข่าตั้งฉากกับมุมเก้าอี้ อาจจะมีที่พักเท้า เพื่อป้องกันการเมื่อยก็ได้ และควรจะยืดเหยียดต้นคอและไหล่เป็นพักๆเพื่อผ่อนคลาย พักกล้ามเนื้อ ประคบน้ำอุ่นครั้งละ 20 นาที ถ้าไม่ดีขึ้นก็ควรไปพบแพทย์ค่ะ
การทำงานหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวของหนุ่มสาวสมัยนี้ เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง แต่คุณก็ต้องไม่ลืมดูสุขภาพตัวเองด้วย เพราะหากทำงานเก็บเงินได้มากมายแต่เอาเงินไปรักษาตัวเองเสียหมด แล้วมันจะมีความหมายอะไร จริงมั้ย